“Ford V Ferrari” สะท้อนปัญหา “ผู้ก่อตั้งบดบังรัศมีทายาท”
กรณีศึกษาของการที่ผู้ก่อตั้งบดบังรัศมีทายาทนั้นเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยครั้งในธุรกิจครอบครัวที่ประสบผลสำเร็จอย่างสูงทั่วโลก เนื่องจากเราพบว่าธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จด้วยความสามารถของคนรุ่นก่อตั้งนั้น ความเป็นอัจฉริยะของผู้ก่อตั้งไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้โดยง่าย หรือโดยอัตโนมัติ

“Ford V Ferrari” สะท้อนปัญหา “ผู้ก่อตั้งบดบังรัศมีทายาท”
tetuer adip iscing
กรณีศึกษาของการที่ผู้ก่อตั้งบดบังรัศมีทายาทนั้นเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยครั้งในธุรกิจครอบครัวที่ประสบผลสำเร็จอย่างสูงทั่วโลก เนื่องจากเราพบว่าธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จด้วยความสามารถของคนรุ่นก่อตั้งนั้น ความเป็นอัจฉริยะของผู้ก่อตั้งไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้โดยง่าย หรือโดยอัตโนมัติ ลูกหลานที่เข้ามารับช่วงต่อมักจะพบกับความท้าทายในการสานต่อชื่อเสียงและการยอมรับจากผู้คนทั่วไปให้เท่าเทียมหรือดีกว่าผู้ก่อตั้งนั้น แม้ว่าในบางครั้งความสามารถอาจจะไม่ได้ด้อยกว่าเลยก็ตาม ถ้าใครเคยได้ดูภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์เรื่อง FORD V FERRARI ที่ออกฉายในปี 2019 หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเหตุการณ์จริงในช่วงเวลาที่ FORD ผู้มั่งคั่งต้องการที่จะลงสนามแข่งรถเพื่อที่จะเอาชนะผู้ครองแชมป์คือ FERRARI เมื่อกว่า 50 ปีมาแล้ว ในที่นี้ผู้เขียนจะไม่ขอเล่าเรื่องราวการแข่งรถของทั้ง 2 ทีม แต่ขอบอกว่าหนังสนุกมากเรื่องหนึ่ง แต่จะขอจับเหตุการณ์สำคัญช่วงตอนที่ FERRARI ประกาศขายบริษัทเพราะทุ่มเงินไปกับการแข่งรถเพื่อชื่อเสียงความสะใจจนทำให้ขาดสภาพคล่อง เรื่องไปเข้าหูทายาทรุ่นที่ 3 คือ Henny Ford II ผู้มั่งคั่งจากสิ่งที่ Henny Ford ผู้เป็นปู่ได้สร้างไว้ จึงตัดสินใจส่งผู้บริหารดาวรุ่งคือ Lee Iacocca ไปขอซื้อกิจการกับเจ้าของ FERRARI นั่นคือนาย Enzo Ferrari ที่อิตาลี ด้วยความมีชื่อเสียงของ Ford ข้อเสนอดูเหมือนจะเอาเปรียบ Ferrari พอควร Enzo Ferrari ได้ตอบปฏิเสธในทันทีทันใดโดยให้เหตุผลว่า คุณไม่ใช่ Henny Ford คุณมันคือ Henny Ford II ดังนั้นไม่ขาย เกิดอะไรขึ้น มันหยามกันชัดๆ และในที่สุด Enzo Ferrari ก็ขายธุรกิจให้ตระกูล Agnellis เจ้าของ Fiat นั่นเอง เรื่องราวในหนังจะเป็นอย่างไรลองไปหาชมดู แต่เรามาลองศึกษาประวัติธุรกิจครอบครัว Ford กันหน่อยว่า Henry Ford สร้างชื่อเสียงจนบดบังความสามารถของทายาทในรุ่นต่อไปกันได้อย่างไร Henny Ford ถือเป็นผู้ประกอบการที่ประสบผลสำเร็จมากที่สุดของอุตสาหกรรมรถยนต์ เกิดที่มิชิแกนในปี 1863 เขาสนใจในเรื่องเครื่องยนต์กลไกตั้งแต่เด็ก ๆ หลังจากแม่เสียชีวิต Henry Ford ซึ่งเป็นพี่คนโตในจำนวนน้องอีก 8 คน ครอบครัวเริ่มลำบาก เขาเลยทำงานหามรุ่งหามค่ำและทำงานไปด้วยเรียนด้านธุรกิจไปด้วย พร้อมด้วยแรงผลักดันที่สูง….

“Ford V Ferrari” สะท้อนปัญหา “ผู้ก่อตั้งบดบังรัศมีทายาท”
กรณีศึกษาของการที่ผู้ก่อตั้งบดบังรัศมีทายาทนั้นเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยครั้งในธุรกิจครอบครัวที่ประสบผลสำเร็จอย่างสูงทั่วโลก เนื่องจากเราพบว่าธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จด้วยความสามารถของคนรุ่นก่อตั้งนั้น ความเป็นอัจฉริยะของผู้ก่อตั้งไม่ใช่เรื่องที่จะสามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นได้โดยง่าย หรือโดยอัตโนมัติ ลูกหลานที่เข้ามารับช่วงต่อมักจะพบกับความท้าทายในการสานต่อชื่อเสียงและการยอมรับจากผู้คนทั่วไปให้เท่าเทียมหรือดีกว่าผู้ก่อตั้งนั้น แม้ว่าในบางครั้งความสามารถอาจจะไม่ได้ด้อยกว่าเลยก็ตาม ถ้าใครเคยได้ดูภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์เรื่อง FORD V FERRARI ที่ออกฉายในปี 2019 หนังเรื่องนี้สร้างมาจากเหตุการณ์จริงในช่วงเวลาที่ FORD ผู้มั่งคั่งต้องการที่จะลงสนามแข่งรถเพื่อที่จะเอาชนะผู้ครองแชมป์คือ FERRARI เมื่อกว่า 50 ปีมาแล้ว ในที่นี้ผู้เขียนจะไม่ขอเล่าเรื่องราวการแข่งรถของทั้ง 2 ทีม แต่ขอบอกว่าหนังสนุกมากเรื่องหนึ่ง แต่จะขอจับเหตุการณ์สำคัญช่วงตอนที่ FERRARI ประกาศขายบริษัทเพราะทุ่มเงินไปกับการแข่งรถเพื่อชื่อเสียงความสะใจจนทำให้ขาดสภาพคล่อง เรื่องไปเข้าหูทายาทรุ่นที่ 3 คือ Henny Ford II ผู้มั่งคั่งจากสิ่งที่ Henny Ford ผู้เป็นปู่ได้สร้างไว้ จึงตัดสินใจส่งผู้บริหารดาวรุ่งคือ Lee Iacocca ไปขอซื้อกิจการกับเจ้าของ FERRARI นั่นคือนาย Enzo Ferrari ที่อิตาลี ด้วยความมีชื่อเสียงของ Ford ข้อเสนอดูเหมือนจะเอาเปรียบ Ferrari พอควร Enzo Ferrari ได้ตอบปฏิเสธในทันทีทันใดโดยให้เหตุผลว่า คุณไม่ใช่ Henny Ford คุณมันคือ Henny Ford II ดังนั้นไม่ขาย เกิดอะไรขึ้น มันหยามกันชัดๆ และในที่สุด Enzo Ferrari ก็ขายธุรกิจให้ตระกูล Agnellis เจ้าของ Fiat นั่นเอง เรื่องราวในหนังจะเป็นอย่างไรลองไปหาชมดู แต่เรามาลองศึกษาประวัติธุรกิจครอบครัว Ford กันหน่อยว่า Henry Ford สร้างชื่อเสียงจนบดบังความสามารถของทายาทในรุ่นต่อไปกันได้อย่างไร Henny Ford ถือเป็นผู้ประกอบการที่ประสบผลสำเร็จมากที่สุดของอุตสาหกรรมรถยนต์ เกิดที่มิชิแกนในปี 1863 เขาสนใจในเรื่องเครื่องยนต์กลไกตั้งแต่เด็ก ๆ หลังจากแม่เสียชีวิต Henry Ford ซึ่งเป็นพี่คนโตในจำนวนน้องอีก