จากบทความสี่ตอนที่ผ่านมา เราได้รับทราบถึงมูลเหตุของความขัดแย้งอันเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจเกิดขึ้นได้ในครอบครัวธุรกิจ ได้แก่
- ความขัดแย้งที่เกิดจากโครงสร้างครอบครัว และโครงสร้างการบริหารธุรกิจครอบครัว
- ความขัดแย้งที่เกิดจากการขาดข้อมูล ข้อมูลที่รับรู้ไม่เท่ากัน การปิดบังข้อมูล เปิดเผยไม่หมด หรือขาดการสื่อสารที่ดีพอ
- ความขัดแย้งที่เกิดจากผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ และความขัดแย้งที่เกิดจากความสัมพันธ์
ในตอนสุดท้ายของซีรีส์นี้เราจะกล่าวถึง มูลเหตุความขัดแย้งที่มาจากทัศนคติ บุคลิกภาพ ค่านิยม ส่วนบุคคล ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ อารมณ์ ความรู้สึก และรสนิยมส่วนบุคคล ซึ่งบางครั้งพบว่าอาจแก้ไข หรือป้องกันได้ยากกว่า ความขัดแย้งในด้านอื่นๆ อาทิ ผลประโยชน์ ซึ่งสามารถเจรจา ตกลงกันได้โดยการประนีประนอมหรือการถอยของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
บุคลิกภาพ ทัศนคติ เป็นเรื่องเฉพาะของบุคคล ซึ่งแม้แต่พี่น้องก็มีความแตกต่างกัน แต่เมื่อคนเราต้องมาทำงานร่วมกัน เรื่องบุคลิกภาพ ทัศนคติ และค่านิยมของแต่ละบุคคล ถือเป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เลย อะไรเป็นตัวขับเคลื่อนให้สมาชิกมีความคิดในการบริหารงานแบบนี้ ความคิดในเชิงบวก ความคิดในเชิงลบ สมาชิกมีสไตล์การใช้ชีวิตแบบไหนจะถูกถ่ายทอดลงมาสู่สไตล์การทำงานด้วย
ตัวอย่างเช่น ผู้ก่อตั้งธุรกิจอาจมีนิสัยเป็นนักบุกเบิก ชอบทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนรอบรู้ทุกเรื่องเพราะทำทุกอย่างเองหมด ในขณะที่ลูกๆ ที่ต้องมารับช่วงต่อธุรกิจ อาจไม่ได้เป็นเหมือนกัน เพราะมีประสบการณ์น้อยกว่า แต่มีความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ก็จะชอบนำระบบ เครื่องมือ สิ่งอำนวยความสะดวกในการบริหารธุรกิจ และกฎระเบียบในการบริหารเข้ามาใช้หรือผู้ก่อตั้งมักจะตัดสินใจทางธุรกิจด้วยการฟันธง และใช้ประสบการณ์ในการตัดสินใจทำให้ตัดสินใจด้วยความรวดเร็ว ขณะที่ลูกๆ ตัดสินใจช้ากว่าทำให้พ่อเกิดความหงุดหงิด เพราะยังไม่มีประสบการณ์เหมือนพ่อ หรือสมาชิกบางคนอาจชอบใช้ชีวิตหรูหรา ชอบออกสังคม ในขณะที่สมาชิกอีกคนชอบอยู่บ้าน ฯลฯ
ดังนั้นเรื่องของบุคลิกส่วนตัว ทัศนคติ หรือค่านิยมส่วนตัว จึงควรถูกนำมาพิจารณาก่อนการเขียนธรรมนูญครอบครัว โดยทาง บริษัท เฟิร์มจะมีแบบทดสอบบุคลิกภาพให้ครอบครัวที่เข้ารับการปรึกษาทำเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้สมาชิกครอบครัวได้เข้าใจกันและกันมากขึ้น ซึ่งจากประสบการณ์ที่ทำ เราพบว่าผลที่ได้บางครั้งก็อาจจะออกมาไม่ตรงกับที่สมาชิกท่านอื่นคิด เนื่องจากปกติแล้วเราจะรู้กว้างๆ ว่าสมาชิกท่านอื่นเป็นอย่างไร แต่พอผลทดสอบออกมาอาจเป็นมากกว่าที่ทุกคนคิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าเรามาพูดคุยกันจะทำให้สมาชิกมีความเข้าใจกันมากขึ้น
ความขัดแย้งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกันว่าแต่ละคนมีความต่าง โดยลองให้สมาชิกวาดวงกลม 2 วง วงหนึ่งคือ วงกลมครอบครัว สื่อถึง “ความรักในครอบครัวจะทำให้ธุรกิจเข้มแข็ง” อีกวงคือ วงกลมธุรกิจครอบครัว สื่อถึง “ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว” ใครคิดว่าอันไหนสำคัญก็วาดวงนั้นใหญ่กว่าอีกวง และให้เหตุผลว่าทำไมถึงคิดแบบนั้น ผลที่ได้เราจะเห็นมุมมองของสมาชิกแต่ละคน ตั้งแต่การให้น้ำหนักหรือขนาดวงกลมที่แตกต่างกัน เหตุผลที่มาจากทัศนคติที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนลงไปในธรรมนูญครอบครัวที่แต่ละคนต้องการด้วย
โดย ทีมที่ปรึกษา
บริษัท เฟิร์ม จำกัด ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจครอบครัวและที่ปรึกษาจัดทำธรรมนูญครอบครัว